ข่าวกีฬา 3 แข้งจากค่าย “หงส์แดง”
ข่าวกีฬา เรียงหน้าติดทีมยอดเยี่ยมประจำสัปดาห์ ส่วนผู้เล่นคนอื่น ๆ มีจากทั้ง เชลซี, เลสเตอร์ และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีใครบ้างที่อยู่ในทีมนี้บ้าง
ผู้รักษาประตู : เอดูอาร์ เมนดี้ (เชลซี)
นอกจากนี้ จอมหนึบค่าย “สิงห์บลูส์” ยังเก็บคลีนชีตนัดที่ 20 บนเวที พรีเมียร์ลีก จากการลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริง 38 เกม โดยมีแค่ ปีเตอร์ เช็ก(26), โฆเซ่ เรน่า(32), อลีสซง เบ็คเกอร์(36) และ รอย แคร์โรลล์(37) เท่านั้นที่ทำตัวเลขดังกล่าวด้วยจำนวนนัดที่น้อยกว่า
กองหลัง : จอนนี่ อีแวนส์ (เลสเตอร์)
เป็นการคัมแบ็กกลับมาลงสนามได้อย่างผ่อนคลายสุด ๆ แนวรับวัย 33 ปีทำให้คนที่อยู่รอบ ๆ กายทำผลงานดีขึ้นมาด้วย ทั้งการเล่นเป็นทีม, การจัดระเบียบแนวรับ รวมถึงความเป็นผู้นำ
กองหลัง : อังเจโล่ อ็อกบอนน่า (เวสต์แฮม)
คุมเกมรับได้อย่างน่าประทับใจจนพา เวสต์แฮม บุกเก็บชัยถึง กูดิสัน พาร์ค ซึ่งแนวรับพันธุ์เลี่ยนก็เป็นผู้ทำประตูชัยให้แก่ทีม
ประตูที่ อ็อกบอนน่า ทำได้กับ “เดอะ แฮมเมอร์ส” บนเวที พรีเมียร์ลีก 8 ลูกนั้นเกิดจากลูกเซตพีซทั้งสิ้น โดยเป็นจากลูกเตะมุม 7 ครั้ง โดยทั้งหมดมากจากการยิงใส่คู่แข่งไม่ซ้ำหน้ากันเลย
กองหลัง : เบน ชิลเวลล์ (เชลซี)
ลูกยิงฮาล์ฟวอลเลย์ของ ชิลเวลล์ กลายเป็นประตูตัดสินเกมที่ทำให้ เชลซี ซิว 3 แต้มกลับออกมา นอกจากนี้ในครึ่งหลังเขายังเข้าปะทะจังหวะสำคัญ เซฟทีมเอาไว้ได้อีกด้วย
กองกลาง : เบร์นาร์โด้ ซิลวา (แมนฯ ซิตี้)
กลับมาเปล่งประกายอีกครั้งในซีซั่นนี้ เคลื่อนเกมบุกให้กับ ซิตี้ ได้ไหลลื่น ในเกมชนะ เบิร์นลี่ย์ มีแค่ ริยาด มาห์เรซ (4) เท่านั้นที่มีโอกาสยิงมากกว่าเขา(3) ขณะที่ไม่มีใครในเกมนี้ที่จะสร้างโอกาสได้มากกว่าแข้งโปรตุกีสอีกแล้ว (3)
กองกลาง : ตองกีย์ เอ็นดอมเบเล่ (สเปอร์ส)
ชัยชนะที่เหมือนจะง่ายสำหรับ สเปอร์ส แต่มาถูก นิวคาสเซิ่ล ตีตื้นขึ้นมาช่วงท้าย ซึ่งจุดเริ่มต้นที่ “ไก่เดือยทอง” คัมแบ็กสู่เกมได้นั้น มาจากลูกยิงของมิดฟิลด์เลือดน้ำหอมรายนี้
กองกลาง : ยูรี่ ตีเลอมันส์ (เลสเตอร์)
ทำประตูสุดสวยซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกม นอกจากนี้การจ่ายบอลขึ้นหน้านับครั้งไม่ถ้วนทำให้ทีมได้ประโยชน์ รวมถึงการคุมเกมแดนกลางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
8 ประตูล่าสุดที่ เอ็นดอมเบเล่ ทำได้ในสีเสื้อ สเปอร์ส เกิดจากเกมนอกบ้านทั้งหมด ขณะเดียวกันเขามีโอกาสส่อประตูในเกมนี้มากถึง 5 หน
กองกลาง : เจมส์ มิลเนอร์ (ลิเวอร์พูล)
กลับมาประจำการตำแหน่งถนัด ทำให้การถอย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ไปยืนกองกลางตัวรับ ไม่มีผลเสียหายต่อทีมเลย
มิลเนอร์ เติมเกมได้สวย และแอสซิสต์ให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ทำสกอร์ ก่อนที่จะถอยไปยืนแบ็กขวา แล้วถูกเปลี่ยนตัวออกเพื่อพักบ้าง
กองหน้า : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)
มีทั้งแอสซิสต์สุดงาม และลูกยิงสุดสวย ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงฝีเท้าระดับเวิลด์คลาส จนใคร ๆ ก็ยอมรับว่าตอนนี้ ซาลาห์ คือหนึ่งในนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลก
ดาวเตะไอยคุปต์ สอยตาข่าย 8 นัดติดต่อกันให้แก่ ลิเวอร์พูล ทุกรายการ ซึ่งเป็นสถิติที่มากที่สุดของทีมนับตั้งแต่ที่ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ทำไว้ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2014 (8)
กองหน้า : แฮร์รี่ เคน (สเปอร์ส)
ในที่สุด แฮร์รี่ เคน ก็เบิกสกอร์แรกในลีกได้เสียที ซึ่งนอกจากจะทำประตูได้แล้ว เจ้าตัวยังมีชื่อแอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตูอีกด้วย
มีแค่ เวย์น รูนี่ย์ (94) เท่านั้นที่ทำประตูเกมเยือนใน พรีเมียร์ลีก ได้มากกว่า เคน (88) โดยที่ 3 นัดหลังที่มาเยือน เซนต์ เจมส์ พาร์ค กัปตันทีมชาติอังกฤษ ยิงได้ถึง 5 ประตู
กองหน้า : โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (ลิเวอร์พูล)
มีไม่บ่อยครั้งที่ผู้ทำแฮตทริกได้แต่กลับไม่สามารถคว้า แมน ออฟ เดอะ แมตช์ มาครอบครอง ถึงกระนั้น นี่คือผลงานชิ้นเอกที่ ฟีร์มีโน่ ทำไว้ให้แก่ “หงส์แดง” ประสานงานเกมรุกกับ ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน่ ได้อย่างไหลลื่น
ขอบคุณข่าว : https://www.siamsport.co.th/