Everton ปลดแฟรงค์ แลมพาร์ด จากตำแหน่งผู้จัดการทีมเรียบร้อย
Everton ทีมอันดับรองบ๋วย ศึกพรีเมียร์ลีก 2022-2023 ประกาศอย่างเป็นทางการ ปลดแฟรงค์ แลมพาร์ด ลงจากตำแหน่งผู้จัดการทีม เป็นที่เรียบร้อย
หลังพาทีม ทำผลงานลุดเลวร้าย หล่นลงไปอยู่ อันดับที่ 19 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยคุมทีมลงสนามไป 20 เกม พาทีมชนะ ได้แค่ 3 เกมเท่านั้น
โดยพาทีม Everton fc เก็บได้เพียง 15 คะแนน โดยมีแต้ม ห่างจากโซนปลอดภัย 2 แต้ม อีกทั้งตลอด 9 เกมหลังสุด พาทีมแพ้ไปถึง 8 เกม ในการลงสนาม ทุกรายการ
แถมก่อนหน้านี้ ยังมีข่าวขัดแย้ง กับผู้เล่นในทีมกับ อับดูลาย ดูคูเร มิดฟิลด์ของทีม ชาวมาลีในห้องแต่งตัว รวมถึงในสนามซ้อม หลังจบเกม ที่แพ้ให้กับ เซาแธมป์ตัน คาบ้าน เมื่อสัปดาห์ก่อน
โดยมีรายงานจากทีม Everton Premier League ที่ได้ระบุว่า ทางด้านแลมพาร์ด ถูกฟาร์ฮัด โมชิรี เจ้าของสโมสร, บิลล์ เคนไรท์ ประธานสโมสร รวมถึง เควิน เธลเวลล์ ผู้อำนวยการฟุตบอล
เรียกตัวไปพูดคุย หลังจบเกมพรีเมียร์ลีก เกมล่าสุด ที่บุกไปแพ้ให้กับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ก่อนที่การพูดคุย จะมีการตกลงกัน และตัดสินใจ แยกทางกันในที่สุด โดยมีการประกาศทาง Everton news
สำหรับอดีต มิดฟิลด์ทีมเชลซี และทีมชาติ อังกฤษ วัย 44 ปีรายนี้ เข้ามารับงานคุมทีม ท็อฟฟี่ สีน้ำงิน ต่อจากราฟาเอล เบนิเตซ เมื่อวันที่ 31 มกราคมปีที่แล้ว
แต่ตลอดระยะเวลา เกือบ 1 ปีที่คุมทีม กลับทำผลงานได้ไม่น่าพอใจ ซึ่งในฤดูกาลก่อน ก็พาทีมรอดตกชั้น ได้อย่างหวุดหวิด ด้วยการจบอันดับ 16 พรีเมียร์ลีก
ทั้งที่ตนเอง ได้งบซื้อนักเตะเสริมทัพ ในจำนวนมหาศาล โดยทางสโมสรเอฟเวอร์ตัน ในเบื้องต้น จะให้ทางด้าน เลห์ตัน เบนส์ อดีตแบ็กซ้าย ระดับตำนานของทีม
ที่ในปัจจุบัน ทำหน้าที่โค้ช ทีมชุดยู-18 และพอล เทต โค้ชชุดยู-21 ทำหน้าที่คุมทีม แบบขัดตาทัพไปก่อน ในระหว่างกำลัง หากุนซือคนใหม่ เข้ามารับงานต่อจาก แฟรงค์ แลมพาร์ด
โดยยังมีรายงาน 4 กุนซือตัวเต็ง ที่ตกเป็นข่าว เข้ามารับงานคุมทีมต่อในครั้งนี้ ประกอบด้วย ฌอน ไดช์ อดีตกุนซือ สโมสรเบิร์นลีย์,
มาร์เซโล บิเอลซา อดีตกุนซือ ลีดส์ ยูไนเต็ด, เดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมเวสต์แฮม ที่ในอดีต เคยคุมทีมทอฟฟี่สีน้ำเงินในปี 2002 ถึงปี2013
และทางด้านของ เวย์น รูนีย์ อดีตนักเตะ เด็กปั้นของสโมสร ที่ ณ ตอนนี้ยังว่างงานอยู่ หลังแยกทางกับ ดาร์บี เคาน์ตี จากการพาทีม แกะเขาเหล็กตกชั้น จากศึกแชมเปียนชิพ ลงไปสู่ลีกวัน
ติดตาม ข่าวกีฬา ได้ทาง newsfootball.net